ผมเชื่อว่าหลายท่านคงไม่เคยทดลองขับรถก่อนซื้อ เอาแบบว่าถูกใจปุปตัดสินใจซื้อเลยไม่ต้องลองขับเลย ซึ่งไม่ผิดแต่อย่างไรแต่ วิธีทดลองขับรถ ทดสอบขับรถช่วยให้ตัดสินใจซื้อรถได้ไม่พลาด แต่ว่าช่วงทดสอบขับควรดูอะไรบ้าง ลองมาศึกษากันก่อน..
รถยนต์นับเป็นทรัพย์สินมูลค่าสูง มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน ดังนั้นการที่จะตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์สักคัน มักประกอบด้วยข้อมูลหลายมิติทั้ง ราคา, ยี่ห้อ, คุณภาพ, การออกแบบ, บริการหลังการขายหรือกระทั่งโปรโมชั่น
เมื่อได้รุ่นรถที่หมายตาไว้แล้ว สิ่งหนึ่งที่เราทำต่อไปคือไปที่โชว์รูมเพื่อขอลองขับ หรือเข้าทดสอบรถด้วยตัวเอง ให้ได้รู้ถึงความรู้สึกขณะขับจริง ๆ พร้อมข้อมูลที่มากกว่าดูในสเปคชีท ซึ่งวันนี้เรามาเปิดข้อมูลแนะนำว่าควรทำอะไรบ้าง
– ปรับตำแหน่งที่นั่งเบาะให้นั่งสบายที่สุด
รถยนต์แต่ละรุ่นนั้นมีการออกแบบภายในห้องโดยสารที่ไม่เหมือนกัน ตัวผู้เขียนเองก็มีโอกาสไปทดสอบรถหลากหลายรุ่น บ้างก็เบาะนั่งยาวถึงข้อพับ บ้างก็สั้นรองได้ถึงขาอ่อน เบาะมีการปรับองศาเองได้ไม่เท่ากัน หรือมองไปที่วัสดุคุณภาพในเบาะ ความหนา ความนุ่ม-แข็งย่อมไม่เท่ากัน ทั้งนี้ชอบแบบไหนคุณไปลองเองแล้วถึงจะตอบได้
– ทัศนวิสัยการมองชัดเจน
หลังจากที่ปรับเบาะที่นั่งสบายสุดแล้ว ก็ทดสอบการมองทัศนวิสัยมองกระจกมองข้าง เสา A รถบดบังแค่ไหน หรือแม้กระทั่งมองเรือไมล์ในรถชัดเจน ไม่เจอพวงมาลัยบัง ทั้งนี้ก็อยู่ที่ลักษณะกายภาพของผู้ทดสอบกับรถด้วย
– ทดสอบทางกายภาพ กับการใช้ฟังก์ชั่นในรถ
การไปกดปุ่มปรับการควบคุมที่คอนโซลกลางรถว่าเอื้อมมากน้อยแค่ไหน เช็กตรวจสอบจุดเชื่อมต่อ USB ในรถ เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็มีสมาร์ทโฟนไว้ใช้แน่นอน และหากคุณแค่อ่านใบสเปคอย่างเดียวก็รู้ว่ามี แต่ใช้จริงยากแค่ไหนต้องไปลองดูกันเองครับ
– สตาร์ทรถ สังเกตแอร์
ข้อมูลนี้มักถูกเก็บเป็นความลับจากผู้ผลิตรถยนต์เรื่องขนาด BTU ของแอร์รถ แน่นอนว่าประเทศไทยเมืองร้อน แอร์เย็น ๆ ไว้ก่อนดีกว่าเพราะปรับลดได้ แต่ถ้าเย็นสู้แดดไม่ได้ลำบากแน่ ๆ อยากให้สังเกตคือระยะเวลาที่ห้องโดยสารเย็น ใช้เวลาแค่ไหน และความเย็นที่ปรับจนสุดหนาวมากแค่ไหน อย่าลืมดูสภาพแวดล้อม ในร่มหรือกลางแจ้ง ไปทดสอบกันกี่คนเป็นตัวแปรด้วย
– ลองเครื่องเสียง
ยุคสมัยนี้รถยนต์มักจะให้เครื่องเสียงที่เป็นจอสัมผัส มีระบบเนวิเกเตอร์พร้อมเชื่อมต่อระบบกล้องเมื่อถอยหลัง เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนใหม่เป็นเรื่องยุ่งยาก ก็อย่าลืมลองฟังเสียงดูถ้าพอรับได้หรือพอใจก็ผ่านครับ แต่ถ้าไม่ชอบให้ลองไปมองรุ่นที่ต่ำลงเพื่อได้เครื่องเสียงธรรมดาดู ได้เอาไปเปลี่ยนเอง สบายใจแถมยังประหยัดเงินได้อีกเยอะ
– ตรวจสอบปัญหาจากการผลิตได้
หลังจากลองออปชั่นต่าง ๆ ภายในรถหมด ลองขับรถดูในย่านความเร็วต่ำ ฟังเสียงก๊อกแก๊กภายใน จากนั้นก็ลองความเร็วสูงต่อ ฟังเสียงรบกวนจากภายนอก เจอสิ่งปรกติให้ชั่งใจดู อย่าคิดว่าเป็นปัญหาที่รถคันเดียว อาจจะเกิดปัญหาทั้งรุ่นจากโรงงาน แน่นอนว่ารีเช็กได้อีกทีให้คุณเปลี่ยนโชว์รูมแต่ขับรุ่นเดิมดูอีกครั้ง
– เข้ากับลักษณะนิสัยผู้ขับ
เราทุกคนมีรสนิยมชมชอบแตกต่างกัน บ้างชอบพวงมาลัยเบา ๆ บ้างชอบพวงมาลัยหนัก ๆ มั่นคงหน่อย การสนองของเบรกตามน้ำหนักเท้า ระยะดึงกลับพวงมาลัย รัศมีวงเลี้ยว เจอทางเรียบ ทางขรุขระ แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้รถยนต์ก็มีบุคลิกที่แตกต่างกัน คุณเพียงไปลองแล้วเลือกที่ชอบในแบบของคุณ แค่นี้ก็พอแล้ว
เรื่องที่แนะนำมาทั้งหมดนี้ คุณจะต้องไปลองทดสอบขับรถตัวเองเท่านั้นถึงจะบอกได้ว่ารถรุ่นนี้ใช่สำหรับ คุณหรือเปล่า “ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน” ขอเติมอีกประโยค “ซื้อรถตามใจผู้ขับ” รับรองว่ามีรอยยิ้มทุกครั้งที่ได้ขับแน่นอน
สำหรับเรื่องราวในครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรเพื่อนๆ สามารถติดตามกันได้ที่ เว็บนายธันวา กันได้เลยครับมีประโยชน์แน่นอนครับ
ที่มา Kapook